การสร้างทีมงานที่ดี
ในภาวการณ์ปัจจุบัน คงไม่มีใครที่ไม่ยอมรับว่า การทำงานเป็นทีมนั้นดี เพราะการทำงานเป็นทีมเป็นการนำ ความรู้ความสามารถของที่แตกต่างกันมาผสมผสานให้ทีมมีความสมบูรณ์ สามารถดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ
การทำงานเป็นทีมที่ดี จะต้องดึงศักยภาพของคนในทีมออกมาเป็นพลังความคิด พลังกาย พลังความมุ่งมั่น เพื่อให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร อาจจะเรียกได้ว่า “หลากหลายความรู้หลายหลายความสามารถ” ไม่มีใครสมบูรณ์ที่สุด ไม่มีใครดีที่สุด เราทำงานคนเดียวไม่ได้เพราะความยากง่ายของงานประการหนึ่ง ความซับซ้อนของงานประการหนึ่ง ความเกี่ยวเนื่อง หรืองานมีส่วนเกี่ยวข้องกันประการหนึ่ง และที่สำคัญ เราต้องทำงานกับคนที่ที่มีความแตกต่างกันทั้งความรู้ความคิด ภูมิหลัง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ทั้งในหน่วยงานเดียวกันและต่างหน่วยงาน การสร้างทีมงานที่ดีจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
การสร้างทีมงานที่ดีได้นั้น ทีมต้องมีองค์ประกอบของการทำงานที่สำคัญคือ ความพอใจในงาน ความรักในงาน การอุตสาหะในงาน การตริตรองงาน การมีเป้าหมายร่วมกัน ถ้าเป็นไปได้เป้าหมายคุณ เป้าหมายผม เป้าหมายองค์กร เป้าหมายลูกค้าเป็นเป้าหมายเดียวกัน ความสำเร็จของทีมน่าจะไม่ไกลเกินจริง เพราะทุกคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ความเข้าอกเข้าใจ การเสียสละ และความมุ่งมั่นของทีมจะทำให้ทุกคนไปถึงเป้าหมาย แต่นั้นก็ตาม การที่ทุกคนจะไปในแนวทางเดียวกัน การสื่อสารก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ กำจัดอุปสรรคของการสื่อสารให้หมดไปหรือให้น้อยที่สุดให้ได้ การสร้างทีมงานที่ดีจะเกิดขึ้น
การสร้างทีมงานที่ดี ได้นั้น บรรยากาศในหน่วยงานต้องอบอุ่น มีความเป็นมิตร ถือหลักเหตุหลักผล ถือประโยชน์ของส่วนร่วมมากว่าส่วนตน การยอมรับความสามารถของกันและกันเชื่อในศักยภาพของแต่ละบุคคล เก่งมากกว่ากัน เก่งน้อยเก่งมาก ไม่สำคัญ ทุกคนสามารถพัฒนาได้
การสร้างทีมงานที่ดี ภาวะผู้นำของคนในทีม มีส่วนผลักดันให้ทีมมีความเข็มแข็ง การผลัดเปลี่ยนการเป็นผู้นำ การให้โอกาสสำหรับคนในทีมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ จะพัฒนาให้สมาชิกในทีมมีความเชี่ยวชาญ และความรู้ในงานมากขึ้นเป็นลำดับ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะทำให้เกิดการฝึกทักษะ ซึ่งจะมีผลดีต่อการสร้างทีมที่เราทุกคนมุ่งหวัง
การสร้างทีมงานที่ดี
- ช่วยให้มี Time Control สมาชิกของทีมจะต้องสามารถบอกได้งานของตนจะแล้วเสร็จเมื่อไร โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่แต่ละคนพบจากการทำงาน
- สมาชิกในทีมต้องไวต่อความรู้สึก ของเพื่อนร่วมงาน สามารถรู้อากัปกิริยาที่แสดงออก ว่าเพื่อนสมาชิกต้องการอะไร พอใจหรือไม่พอใจ รู้นิสัยใจคอ ซึ่งจะช่วยให้ลดปัญหาความเข้าใจผิด เกิดความเข้าใจอันดี สร้างความไว้วางใจ
- บรรยากาศทำงานที่ผ่อนคลาย Relaxed Atmosphere ไม่เคร่งเครียด การทำงานเป็นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย หลีกเลี่ยงการติดต่ออย่างเป็นทางการ เน้นความเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งมีผลในการติดต่อสื่อสารการประสานงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างทีมงานที่ดี
- ทุกคนต้องมีข้อมูล ต้องเตรียมข้อมูล โดยเฉพาะหากต้องมีการประชุม (ทำการบ้านเป็นอย่างดี) ทั้งนี้เพื่อนำมาแลกเปลี่ยน นำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนและตัดสินใจของทีมงาน ดังนั้นทุกคนต้องรู้สำนึกรับผิดชอบหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่
- ต้องคัดคนที่มีคุณภาพเข้าทีม เรียกว่าสมาชิกต้อง Qualifiled ต้องมีความรู้ความสามารถในการทำงาน การแก้ปัญหา มีความสนใน ใส่ใจ และพร้อมที่จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
- มีการจดรายละเอียดในการประชุม เพื่อศึกษา ค้นคว้า ทบทวน จดจำ เพื่อปรับปรุงงาน และดำเนินการตามที่ได้ข้อตกลงในที่ประชุม
- สำคัญที่สุดคือ การประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นระยะ หรือเป็นช่วงเวลา ยิ่งมีทีมย่อยที่จะต้องประสานกัน เพื่อผลสำเร็จขององค์กรซึ่งเป็นทีมใหญ่
ปิยะวุฒิ อนุอันต์